แต่เดิมชาวจีนได้ใช้ประโยชน์จากลายเส้นผิวหนังมาตั้งแต่ 5,000 ปีที่แล้ว โดยจักรพรรดิจีนสมัยนั้น ได้ใช้ลายนิ้วมือเป็นตราประทับแทนพระองค์ หลังจากนั้นอีกประมาณ 1,000 ปี ได้เริ่มมีการวิเคราะห์อุปนิสัยของคนผ่านทางลายเส้นนิ้วมือเรื่อยมา จนกระทั่ง อริสโตเติล ได้เขียนหนังสือชื่อ ศาสตร์เส้นลายมือ ขึ้น จึงนับเป็นจุดเริ่มต้นที่มีการศึกษาเกี่ยวกับศาสตร์ลายเส้นผิวหนัง ต่อมาในปีค.ศ. 1926 ศาตราจารย์ Harold Cummins ได้รับการยอมรับว่าเป็นบิดาแห่งการศึกษาลายเส้นผิวหนัง และได้เสนอคำศัพท์ว่า Dermatoglyphics (ศาสตร์การศึกษาลายเส้นผิวหนัง) มาใช้เป็นครั้งแรก จากนั้นศาสตร์ด้านการศึกษาลายเส้นจึงถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายจนปัจจุบันนี้
Dermatoglyphics Analysis (DA) จึงเป็นการนำเอาศาสตร์การศึกษาลายเส้น มาวิเคราะห์โดยอาศัยเทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์ วิทยาศาสตร์ พันธุกรรมศาสตร์ มานุษยวิทยา การแพทย์สมัยใหม่ และการวิเคราะห์ทางสถิติ (Quantitative Analysis) ผลที่ได้จึงเป็นรูปธรรม ไม่มีอคติ ไม่ลำเอียง และจะยังคงอยู่เหมือนเดิมตลอดชีวิต แม้เด็กจะเติบโตขึ้น
|
|