กระทู้ความคิดเห็น

ผู้แสดงความคิดเห็น 0 คน
ผู้เข้าชม 1730 คน

??????????? ??????? ????????????? VS ???????????
ความแตกต่าง ระหว่าง เด็กสมาธิสั้น VS เด็กไฮเปอร์


ตั้งข้อสังเกต ลูกคุณ…เป็น เด็กสมาธิสั้น หรือ แค่ไฮเปอร์ ?

เจ้าตัวเล็กของคุณเป็นโรคสมาธิสั้น หรือแค่มีพลังงานเหลือเฟือกันแน่? เราจะบอกคุณว่าเด็กแบบไหนเป็น เด็กสมาธิสั้น และแบบไหนคือ เด็กไฮเปอร์ พร้อมวิธีรักษา

hyperkids

สัญญาณในเด็กเล็ก

เด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้นจะไม่สามารถทำอะไรให้เสร็จสมบูรณ์ได้ ต่อให้เป็นงานที่ง่ายที่สุดก็ตาม ปกติเด็กเล็กมักมีสมาธิสั้นกว่าเด็กโตอยู่แล้ว แต่เด็กที่เป็นโรคนี้จะเริ่มคิดถึงงานถัดไปก่อนที่จะเริ่มทำงานแรกเสียอีก พวกเขาจะไม่สามารถนั่งฟังนิทานเฉย ๆ หรือแม้แต่ช่วยพับผ้าได้

เด็กที่มีปัญหาสมาธิสั้นจะทำตามคำสั่งหรือประมวลข้อมูลได้ลำบากกว่าเด็กในวัยเดียวกัน เขาจะพูดตลอดเวลา เพียงเพื่อให้ได้พูด แต่ไม่ได้หมายความว่าเด็กที่ถามคำถาม “ทำไม” ตลอดเวลาจะเป็นโรคสมาธิสั้น เด็กที่เป็นโรคนี้จะพูดทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาในสมอง และพูดเรื่องเดิมซ้ำ ๆ

อีกอาการหนึ่งของเด็กที่เป็นโรคนี้คือ เขาจะเคลื่อนไหวตลอดเวลา เช่น กระโดดบนเตียง กระโดดลงจากโต๊ะ ขยุกขยิก แกว่งแขน แกว่งเท้า เล่นกับอาหาร และไม่สามารถนั่งนิ่ง ๆ ได้ หมายเหตุ: นี่เป็นอาการทั่วไปของเด็กสมาธิสั้น ไม่ใช่เด็กที่กำลังตื่นเต้นเพราะจะได้ไปเที่ยวข้างนอกนะคะ

เด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้นมักมีความคิดสร้างสรรค์และช่างจินตนาการ สมองของเขาจะวิ่งปรู้ดตลอดเวลา และอยากทำนู่นทำนี่ไปซะทุกอย่าง มักเป็นพวกที่คิดเรื่องราวประหลาด ๆ มาเล่าให้คุณฟังได้เสมอ ชอบวาดรูปสัตว์หน้าตาประหลาด และเมื่อเริ่มโตขึ้น เขาจะสามารถทำหลาย ๆ อย่างในเวลาเดียวกันได้ เช่นฟังคุณพูดไปพร้อม ๆ กับการจดจ่ออยู่กับงานอื่น

 

การวินิจฉัยของแพทย์

ไม่ว่าลูกของคุณจะมีอาการชัดเจนแค่ไหน เราก็ไม่แนะนำให้คุณพยายามวินัจฉัยโรคด้วยตัวเอง มีเด็กอายุต่ำกว่า 7 ขวบหลายคนถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคสมาธิสั้นโดยที่พวกเขาไม่ได้เป็น เนื่องจากการวินิจฉัยโรคนี้ต้องอาศัยเวลาสังเกตพฤติกรรมต่อเนื่อง เด็กในช่วงวัยนี้อาจดูไฮเปอร์ แต่ไม่ได้แปลว่าเขาจะเป็นโรคสมาธิสั้นเสมอไป อาจแค่อยู่ในช่วงกำลังซน อยากรู้อยากเห็น แต่อาการเหล่านี้จะหายไปเมื่อเด็กโตขึ้น

shrieking kids

วิธีรักษาที่ดีที่สุด

มีหลายวิธีที่คุณสามารถทำเพื่อบรรเทาอาการโรคสมาธิสั้นได้ เช่น ทำให้บรรยากาศในบ้านสงบ งดกิจกรรมที่อึกทึก และอื่น ๆ ดังต่อไปนี้

เพียงแค่ลองเปลี่ยนอาหารให้ลูก ก็อาจช่วยบรรเทาอาการได้มาก พยายามงดอาหารแปรรูปที่ใส่สีผสมอาหาร สารเคมี และอาหารขยะทั้งหลาย ร่างกายของเราถูกออกแบบมาเพื่อให้ย่อยผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์จากนม การกินอาหารอย่างระวังจะช่วยบรรเทาอาการได้โดยไม่ต้องพึ่งยา
ลดสิ่งกระตุ้นต่าง ๆ ห้องที่มีสีสันสดใส การเปิดเพลงเสียงดัง วิดีโอเกมหรือรายการทีวีที่มีการเคลื่อนไหวเยอะ ๆ และอื่น ๆ จะยิ่งกระตุ้นประสาท และทำให้ลูกไม่สามารถจดจ่อได้ พยายามทำให้ทุกอย่างเงียบสงบ หากิจกรรมที่ลูกได้ลงมือทำด้วยตัวเองให้ลูกทำก็ช่วยได้เช่นกัน
ให้รางวัลเมื่อลูกทำงานเสร็จ เพื่อกระตุ้นให้ลูกจดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งและปฏิบัติตัวดีจนกว่างานจะสำเร็จ
บางครั้งอาการของโรคอาจเกิดขึ้นกระทันหันจนเด็กไม่สามารถเรียนรู้และใช้ชีวิตได้ตามปกติ คุณอาจจำเป็นต้องให้ยา แต่ควรเลือกวิธีนี้เป็นทางเลือกสุดท้ายหลังจากที่ได้ลองวิธีอื่น ๆ แล้ว
คุณอาจปรึกษากุมารแพทย์เพิ่มเติมเพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับโรค การวินิจฉัย วิธีรักษา และวิธีการฝึกให้ลูกใช้พลังไปในทางที่สร้างสรรค์

โดย ??? : 2014-09-01 11:56:49 IP : 110.171.36.24

ข้อความ *
รูปภาพ (รูปต้องมีขนาดไม่เกิน 50 k)
ผู้แสดงความคิดเห็น *
Email
 
New Code
Verify Code *

Your Data :
IP : 3.21.12.88
Internet form : ec2-3-21-12-88.us-east-2.compute.amazonaws.com
Date : 2024-11-21 10:05:30