กระทู้ความคิดเห็น

ผู้แสดงความคิดเห็น 0 คน
ผู้เข้าชม 783 คน

????????????????
สอนลูกรักให้ฉลาด

             คุณพ่อคุณแม่ทุกคนย่อมหวังอยากจะให้ลูกของเราเป็นคนดี คนเก่ง  คนฉลาดกันทั้งนั้นใช่ไหมละค่ะ  ซึ่งการเป็นเด็กที่ฉลาดนั้นจะต้องมีพร้อมทั้ง I.Q และ  E.Q . ด้วย  เพื่อจะทำให้เจ้าตัวเล็กอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข  และหน้าที่ที่จะปลูกฝังให้ลูกรักเป็นเด็กฉลาดที่มีพร้อมทั้ง ทั้งI.Q และ  E.Q. ก็คงจะหนีไม่พ้นหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่  แม้ว่าการจะเลี้ยงลูกสักคนให้เป็นเด็กดี เด็กฉลาด ดูจะเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนัก  แต่ก็ไม่ยากเกินความสามารถของคุณพ่อคุณแม่แน่นอนค่ะ  และถ้าไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรก็ลองทำตามคำแนะนำง่ายๆนี้ดู

สนุกสนานกับการร้องเพลง  เจ้าตัวเล็กทั้งหลายไม่ว่าจะอย่างไรก็คงชอบอกชอบใจที่จะได้ยินเสียงดนตรี  แต่จะดีกว่าไหมหากให้ลูกน้อยของคุณแม่ร้องเพลงที่เขาแต่งขึ้นเอง  โดยคุณแม่อาจจะเป็นผู้ริเริ่ม  เช่น  ระหว่างการเดินทาง  คุณแม่จับเอาประโยคง่ายๆมาใส่เป็นทำนอง  ซึ่งวิธีนี้นอกจากจะทำให้คุณแม่และเจ้าตัวเล็กมีช่วงเวลาที่สนุกสนานร่วมกันแล้ว  ยังเป็นการกระตุ้นจินตนาการละช่วยในการพัฒนาทักษะความจำและภาษาของเจ้าตัวเล็กอีกด้วย  นอกจากนี้ผลการวิจัยจาก Univercity  of Ca;ifornia ยังพบว่าเด็กที่เล่นคีย์บอร์ดหรือเข้ากลุ่มร้องเพลง  จะมีทักษะในด้านการแก้ปัญหาเชาว์  เราขาคณิต  เศษส่วน  และอัตราส่วนดีกว่าเด็กอื่นๆ

เพิ่มจังหวะให้ชีวิต  จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยอ็อกฟอร์ด  ประเทศอังกฤษ  พบว่า  ยิ่งเด็กๆได้ยินเสียงหรือคำคล้องจองต่างๆ มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งจะทำให้พวกเขาเรียนรู้คำศัพท์ได้เร็วเท่านั้น  เพราะเสียงเพลงหรือคำคล้องจองที่เป็นจังหวะจะช่วยสอนเจ้าตัวเล็กว่า  ภาษาไม่ได้เกิดจากคำศัพท์ที่เอามาวางต่อๆกันเท่านั้น  แต่ยังอยู่ที่วิธีที่เราจะใช้คำเหล่านั้นด้วย

เรื่องเล่าซ้ำซาก  คุณแม่อย่าเพิ่งเบื่อนะค่ะ  หากเจ้าตัวน้อยของคุณขอให้เล่านิทานเรื่องเดิมซ้ำแล้วซ้ำอีก  เพราะการเล่าเรื่อง  เล่นเกม  หรือร้องเพลงซ้ำไปซ้ำมา  ครั้งแล้วครั้งเล่า  จะช่วยพัฒนาทักษะด้านความจำและการให้คำศัพท์ให้กับเจ้าตัวเล็กได้  นอกจากนี้ยังมีผลการศึกษาที่แสดงว่าเด็กที่อ่านหนังสือเรื่องเดิมซ้ำ 3 รอบ  จะมีความเข้าใจคำศัพท์ยากๆได้ดีกว่าเด็กที่อ่านเพียงครั้งเดียว  รู้อย่างนี้แล้วคุณแม่ก็อย่าเพิ่งเบื่อที่จะเล่านิทานเรื่องเดิมๆให้ลูกน้อยฟังนะค่ะ  

เลขคณิตคิดสนุก  คุณแม่ลองแนะนำให้เจ้าตัวเล็กนับสิ่งต่างๆที่อยู่รอบๆตัว  วีนี้จะทำให้ลูกเรียนรู้เรื่องจำนวนและตัวเลข  หลังจากนั้นใช้วิธีที่สนุกสนานสอนให้รู้จักการบวกและลบ  เช่น  มีขนมอยู่ 4 ชิ้น ลูกกินไป 2 ชิ้นจะเหลือเท่าไหร่ โดยให้เจ้าตัวเล็กลองนับจำนวนที่เหลือดู   เพียงเท่านี้ลูกของคุณก็จะได้เรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์อย่างง่ายๆ  โดยที่เจ้าตัวน้อยไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังถูกสอนอยู่

อย่าเล่านิทานตามตัวหนังสือ  การเล่านิทานหรืออ่านหนังสือให้ลูกฟังเป็นสิ่งที่ดี  แต่จะดียิ่งขึ้นถ้าคุณแม่พูดคุยเกี่ยวกับรูปภาพหรือเรื่องราวของหนังสือแต่ละเล่มขณะที่อ่านไปด้วย  เพราะการที่คุณแม่พูดคุย  ตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆจะทำให้เจ้าตัวมีสมาธิในการฟัง  และการพยายามคิดหาคำตอบที่คุณแม่ถามจะทำให้ลูกของคุณมีพัฒนาการทางภาษาเร็วขึ้นอีกด้วย

ปล่อยให้ลูกได้เล่น  การที่เจ้าตัวเล็กได้เล่นอย่างอิสรเสรี  ได้ใช้จินตนาการของตัวเองจะเป็นการฝึกความคิดสร้างสรรค์ให้กับลูกของคุณได้เป็นอย่างดี  ฉะนั้น ถ้าคุณแม่เห็นเจ้าตัวเล็กร้องเล่นเต้นระบำอย่างร่าเริงกับตุ๊กตาตัวโปรดก็อย่าเข้าไปขัดจังหวะนะค่ะ  เพราะขณะนั้นจินตนาการของเจ้าตัวเล็กกำลังโลดแล่นอย่างอิสระและนั่นจะเป็นการสร้างความคิดสร้างสรรค์ให้กับเจ้าตัวน้อยของคุณได้

ลูกรักของแม่  เก่งได้  ฉลาดด้วย
คุณแม่หลายท่านคงเคยได้ยินว่า  ถ้าต้องการบ่มเพาะหรือพัฒนาลูกน้อยของเราให้เป็นเด็กที่มีไฮคิว
สูงหรือฉลาดเฉลียวแล้วละก็  จะต้องทำในช่วงที่ลุกของเรายังเล็กอยู่  เป็นที่ยอมรับกันทั่วไปว่าระดับไอคิวหรือสติปัญญาความเฉลียวฉลาดและความสามารถในการเรียนรู้มีส่วนสัมพันธ์กับอาหารที่มีประโยชน์

กินให้ฉลาด  ฉลาดที่จะกิน
สารอาหารจำเป็นที่จะให้พลังงาน อย่างโปรตีน  แคลเซียม  ธาตุเหล็ก  เกลือแร่และวิตามินต่างๆ  มีความจำเป็นต่อลูกน้อยวัยเรียน  ซึ่งเป็นวัยที่มีการเจริญเติบโตทางด้านสมองและร่างกายอย่างรวดเร็ว  จะสังเกตเห็นว่าลูกเริ่มที่จะสนุกสนานท้าทาย  โลดโผนกับความแข็งแรงของตัวเองอยู่เสมอ  ยังรวมถึงการชอบสำรวจ  ค้นหา  และเรียนรู้สิ่งต่างๆรอบตัว  โดยสามารถนำทักษะการเรียนรู้  จดจำ  พัฒนาสู่การแก้ไขปัญหาได้ดีขึ้น  จากผลการวิจัยพบว่า  กรดไขมันโอเมก้า  3 6 และ 9 หรือเป็นกรดไขมันอิ่มตัวจำพวก AA และ DHA  ที่จำเป็นต่อสมองและการเรียนรู้  รวมถึงประโยชน์สำหรับพัฒนาการด้านสติปัญญา  พฤติกรรม  การมองเห็น  และการนอนหลับ  นอกจากนั้นยังส่งผลให้ความสนใจในการเรียนรู้ช้าลงไปอีกด้วย

เพิ่มศักยภาพทางสมองลูกน้อย  ด้วย  Omega 3 6 9
ดังนั้นเพื่อส่งเสริมให้การใช้สมองของลูกได้พัฒนาไปอย่างมีประสิทธิภาพ  คุณแม่ควรใส่ใจและดูแลเป็นพิเศษ  ด้วยการเลือกสรรอาหารที่มีประโยชน์สำหรับลูกน้อย  เพรากรดไขมันโอเมก้า  3 6 และ 9 เป็นกรดไขมันที่จำเป็นต่อสมองและการเรียนรู้  โอเมก้า 3 หรือกลุ่มกรดไขมัน DHA  ที่พบมากในปลาทะเลเกือบทุกชนิด  เช่น  ปลาซาร์ดีน  ปลาทูน่า  ปลาแซลม่อน  อาหารประเภทถั่วและเมล็ดฟักทองจะทำหน้าที่ช่วยเพิ่มจำนวนและแบ่งตัวเซลล์ประสาท  ซึ่งมีผลต่อสมองช่วยสร้างสมาธิในการเรียนรู้  โดยมีโอเมก้า 6 ที่มีอยู่ในน้ำมันพืช  เช่น  น้ำมันจากดอกทานตะวัน  ถั่วเมล็ดแห้ง  เมล็ดฟักทอง   ถั่วเหลือง  ซึ่งจะช่วยในกระบวนการสร้างเยื่อหุ้มเซลล์ประสาท  อีกทั้งยังมีผลต่อสารสื่อนำประสาทจากกรดโอเมก้า 9 อีกด้วย

โดย ??? : 2014-07-15 12:07:10 IP : 110.171.36.24

ข้อความ *
รูปภาพ (รูปต้องมีขนาดไม่เกิน 50 k)
ผู้แสดงความคิดเห็น *
Email
 
New Code
Verify Code *

Your Data :
IP : 3.143.23.38
Internet form : ec2-3-143-23-38.us-east-2.compute.amazonaws.com
Date : 2024-11-21 13:11:54