กระทู้ความคิดเห็น
ผู้แสดงความคิดเห็น 0 คน
|
???????????????? |
สอนลูกรักให้ฉลาด คุณพ่อคุณแม่ทุกคนย่อมหวังอยากจะให้ลูกของเราเป็นคนดี คนเก่ง คนฉลาดกันทั้งนั้นใช่ไหมละค่ะ ซึ่งการเป็นเด็กที่ฉลาดนั้นจะต้องมีพร้อมทั้ง I.Q และ E.Q . ด้วย เพื่อจะทำให้เจ้าตัวเล็กอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข และหน้าที่ที่จะปลูกฝังให้ลูกรักเป็นเด็กฉลาดที่มีพร้อมทั้ง ทั้งI.Q และ E.Q. ก็คงจะหนีไม่พ้นหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่ แม้ว่าการจะเลี้ยงลูกสักคนให้เป็นเด็กดี เด็กฉลาด ดูจะเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนัก แต่ก็ไม่ยากเกินความสามารถของคุณพ่อคุณแม่แน่นอนค่ะ และถ้าไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรก็ลองทำตามคำแนะนำง่ายๆนี้ดู สนุกสนานกับการร้องเพลง เจ้าตัวเล็กทั้งหลายไม่ว่าจะอย่างไรก็คงชอบอกชอบใจที่จะได้ยินเสียงดนตรี แต่จะดีกว่าไหมหากให้ลูกน้อยของคุณแม่ร้องเพลงที่เขาแต่งขึ้นเอง โดยคุณแม่อาจจะเป็นผู้ริเริ่ม เช่น ระหว่างการเดินทาง คุณแม่จับเอาประโยคง่ายๆมาใส่เป็นทำนอง ซึ่งวิธีนี้นอกจากจะทำให้คุณแม่และเจ้าตัวเล็กมีช่วงเวลาที่สนุกสนานร่วมกันแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นจินตนาการละช่วยในการพัฒนาทักษะความจำและภาษาของเจ้าตัวเล็กอีกด้วย นอกจากนี้ผลการวิจัยจาก Univercity of Ca;ifornia ยังพบว่าเด็กที่เล่นคีย์บอร์ดหรือเข้ากลุ่มร้องเพลง จะมีทักษะในด้านการแก้ปัญหาเชาว์ เราขาคณิต เศษส่วน และอัตราส่วนดีกว่าเด็กอื่นๆ เพิ่มจังหวะให้ชีวิต จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยอ็อกฟอร์ด ประเทศอังกฤษ พบว่า ยิ่งเด็กๆได้ยินเสียงหรือคำคล้องจองต่างๆ มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งจะทำให้พวกเขาเรียนรู้คำศัพท์ได้เร็วเท่านั้น เพราะเสียงเพลงหรือคำคล้องจองที่เป็นจังหวะจะช่วยสอนเจ้าตัวเล็กว่า ภาษาไม่ได้เกิดจากคำศัพท์ที่เอามาวางต่อๆกันเท่านั้น แต่ยังอยู่ที่วิธีที่เราจะใช้คำเหล่านั้นด้วย เรื่องเล่าซ้ำซาก คุณแม่อย่าเพิ่งเบื่อนะค่ะ หากเจ้าตัวน้อยของคุณขอให้เล่านิทานเรื่องเดิมซ้ำแล้วซ้ำอีก เพราะการเล่าเรื่อง เล่นเกม หรือร้องเพลงซ้ำไปซ้ำมา ครั้งแล้วครั้งเล่า จะช่วยพัฒนาทักษะด้านความจำและการให้คำศัพท์ให้กับเจ้าตัวเล็กได้ นอกจากนี้ยังมีผลการศึกษาที่แสดงว่าเด็กที่อ่านหนังสือเรื่องเดิมซ้ำ 3 รอบ จะมีความเข้าใจคำศัพท์ยากๆได้ดีกว่าเด็กที่อ่านเพียงครั้งเดียว รู้อย่างนี้แล้วคุณแม่ก็อย่าเพิ่งเบื่อที่จะเล่านิทานเรื่องเดิมๆให้ลูกน้อยฟังนะค่ะ เลขคณิตคิดสนุก คุณแม่ลองแนะนำให้เจ้าตัวเล็กนับสิ่งต่างๆที่อยู่รอบๆตัว วีนี้จะทำให้ลูกเรียนรู้เรื่องจำนวนและตัวเลข หลังจากนั้นใช้วิธีที่สนุกสนานสอนให้รู้จักการบวกและลบ เช่น มีขนมอยู่ 4 ชิ้น ลูกกินไป 2 ชิ้นจะเหลือเท่าไหร่ โดยให้เจ้าตัวเล็กลองนับจำนวนที่เหลือดู เพียงเท่านี้ลูกของคุณก็จะได้เรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์อย่างง่ายๆ โดยที่เจ้าตัวน้อยไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังถูกสอนอยู่ อย่าเล่านิทานตามตัวหนังสือ การเล่านิทานหรืออ่านหนังสือให้ลูกฟังเป็นสิ่งที่ดี แต่จะดียิ่งขึ้นถ้าคุณแม่พูดคุยเกี่ยวกับรูปภาพหรือเรื่องราวของหนังสือแต่ละเล่มขณะที่อ่านไปด้วย เพราะการที่คุณแม่พูดคุย ตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆจะทำให้เจ้าตัวมีสมาธิในการฟัง และการพยายามคิดหาคำตอบที่คุณแม่ถามจะทำให้ลูกของคุณมีพัฒนาการทางภาษาเร็วขึ้นอีกด้วย ปล่อยให้ลูกได้เล่น การที่เจ้าตัวเล็กได้เล่นอย่างอิสรเสรี ได้ใช้จินตนาการของตัวเองจะเป็นการฝึกความคิดสร้างสรรค์ให้กับลูกของคุณได้เป็นอย่างดี ฉะนั้น ถ้าคุณแม่เห็นเจ้าตัวเล็กร้องเล่นเต้นระบำอย่างร่าเริงกับตุ๊กตาตัวโปรดก็อย่าเข้าไปขัดจังหวะนะค่ะ เพราะขณะนั้นจินตนาการของเจ้าตัวเล็กกำลังโลดแล่นอย่างอิสระและนั่นจะเป็นการสร้างความคิดสร้างสรรค์ให้กับเจ้าตัวน้อยของคุณได้ ลูกรักของแม่ เก่งได้ ฉลาดด้วย คุณแม่หลายท่านคงเคยได้ยินว่า ถ้าต้องการบ่มเพาะหรือพัฒนาลูกน้อยของเราให้เป็นเด็กที่มีไฮคิว สูงหรือฉลาดเฉลียวแล้วละก็ จะต้องทำในช่วงที่ลุกของเรายังเล็กอยู่ เป็นที่ยอมรับกันทั่วไปว่าระดับไอคิวหรือสติปัญญาความเฉลียวฉลาดและความสามารถในการเรียนรู้มีส่วนสัมพันธ์กับอาหารที่มีประโยชน์ กินให้ฉลาด ฉลาดที่จะกิน สารอาหารจำเป็นที่จะให้พลังงาน อย่างโปรตีน แคลเซียม ธาตุเหล็ก เกลือแร่และวิตามินต่างๆ มีความจำเป็นต่อลูกน้อยวัยเรียน ซึ่งเป็นวัยที่มีการเจริญเติบโตทางด้านสมองและร่างกายอย่างรวดเร็ว จะสังเกตเห็นว่าลูกเริ่มที่จะสนุกสนานท้าทาย โลดโผนกับความแข็งแรงของตัวเองอยู่เสมอ ยังรวมถึงการชอบสำรวจ ค้นหา และเรียนรู้สิ่งต่างๆรอบตัว โดยสามารถนำทักษะการเรียนรู้ จดจำ พัฒนาสู่การแก้ไขปัญหาได้ดีขึ้น จากผลการวิจัยพบว่า กรดไขมันโอเมก้า 3 6 และ 9 หรือเป็นกรดไขมันอิ่มตัวจำพวก AA และ DHA ที่จำเป็นต่อสมองและการเรียนรู้ รวมถึงประโยชน์สำหรับพัฒนาการด้านสติปัญญา พฤติกรรม การมองเห็น และการนอนหลับ นอกจากนั้นยังส่งผลให้ความสนใจในการเรียนรู้ช้าลงไปอีกด้วย เพิ่มศักยภาพทางสมองลูกน้อย ด้วย Omega 3 6 9 ดังนั้นเพื่อส่งเสริมให้การใช้สมองของลูกได้พัฒนาไปอย่างมีประสิทธิภาพ คุณแม่ควรใส่ใจและดูแลเป็นพิเศษ ด้วยการเลือกสรรอาหารที่มีประโยชน์สำหรับลูกน้อย เพรากรดไขมันโอเมก้า 3 6 และ 9 เป็นกรดไขมันที่จำเป็นต่อสมองและการเรียนรู้ โอเมก้า 3 หรือกลุ่มกรดไขมัน DHA ที่พบมากในปลาทะเลเกือบทุกชนิด เช่น ปลาซาร์ดีน ปลาทูน่า ปลาแซลม่อน อาหารประเภทถั่วและเมล็ดฟักทองจะทำหน้าที่ช่วยเพิ่มจำนวนและแบ่งตัวเซลล์ประสาท ซึ่งมีผลต่อสมองช่วยสร้างสมาธิในการเรียนรู้ โดยมีโอเมก้า 6 ที่มีอยู่ในน้ำมันพืช เช่น น้ำมันจากดอกทานตะวัน ถั่วเมล็ดแห้ง เมล็ดฟักทอง ถั่วเหลือง ซึ่งจะช่วยในกระบวนการสร้างเยื่อหุ้มเซลล์ประสาท อีกทั้งยังมีผลต่อสารสื่อนำประสาทจากกรดโอเมก้า 9 อีกด้วย
|
|
โดย ??? : 2014-07-15 12:07:10 IP : 110.171.36.24 |
|
|||||