กระทู้ความคิดเห็น

ผู้แสดงความคิดเห็น 0 คน
ผู้เข้าชม 857 คน

????????????????????????? ??????
การดูแลฟันและป้องกันฟันผุ ของลูก

งดของหวาน

ทอฟฟี่ ช็อกโกแลตหรืออาหารที่กินแล้วเหนียว ติดฟันมากๆ เช่น ตังเม กระยาสารท ขนมเค้ก ขนมโก๋ ก็เช่นกัน พวกนี้จะติดฟันมาก คุณต้องให้บ้วนปาก ซึ่งบางครั้งก็ออกไม่หมดต้องตามด้วยการแปรงฟัน 

สอนการแปรงฟันอย่างถูกต้อง

ในเด็กต่ำกว่า 1 ปี อาจใช้ผ้าขาวสะอาดเช็ดคราบนม แต่เมื่อโตต้องสอนการแปรงฟันอย่างถูกต้อง บางคนอาจฉวยโอกาสเอาตอนที่แกอยากเลียนแบบผู้ใหญ่ เห็นคุณพ่อคุณแม่แปรงฟันก็จะทำตาม คุณรีบซื้อเลย 1 อัน เลือกเอาที่ขนาดพอเหมาะกับปากเด็ก ปากเด็กเล็กนิดเดียวซื้อแปรงสีฟัน อันโตให้ก็คับปากเด็ก คุณต้องสอบการแปรงฟันที่ถูกต้องให้แก่ลูก คือ แปรงด้านบนของฟันล่างและด้านล่างของฟันบนทั้งซ้ายและขวา ต่อไปใช้แปรงปัดจากโคนฟันสู่ปลายฟัน  ถ้าเป็นฟันล่างก็ปัดแปรงขึ้นไล่ไปที่ละซี่ๆ เพื่อเขี่ยเศษอาหารออกให้หมดจากซี่ฟัน บางคนอายุมากเป็นถึงดอกเตอร์ยังแปรงฟันไม่ถูกวิธีก็มี คือ ถูไปถูมา ซ้ายๆขวาๆ เท่านั้น ไม่มีการแปรงขึ้นๆ ลง ๆ คิดว่าสะอาดแล้วแต่ปรากฏว่า ทำให้รากฟันโผล่ ต่อไปจะเกิดฟันผุเจ็บ ส่วนเศษอาหารก็ออกไม่ได้ เพราะเกาะติดระหว่างซี่ฟัน ต่อมาก็ผุอีกบ้าง เกิดหินปูนบ้าง กลายเป็นคราบเหลืองๆ เขียวๆ ดำๆ ไม่น่าดูเลย 

ถ้าเป็นไปได้ ควรแนะนำให้แปรงฟันหลังอาหารทุกมื้อเลย  3 มื้อ มื้อที่ต้องแปรงฟันให้เกลี้ยงคือ ก่อนนอน เพราะเด็กต้องนอนพักนานมาก ถ้าตอนแรกแกไม่ยอมแปรงฟันดำมาก คุณก็ใช้ผ้าเช็ดหน้าหรือผ้านุ่มๆ ถูเบาๆ ก่อนก็ได้ ต่อไปก็เริ่มแปรงด้วยกันโดยไม่ใช้ยาสีฟันก่อน ต่อมาใช้ยาสีฟันเด็กชนิดรสผลไม้ และเข้าฟลูออไรด์ก็ได้ 

เมื่อเด็กโตขึ้น ควรแนะนำด้วยเคลือบขี้ผึ้งในท้องตลาดเรียกว่า Dental floss ทำความสะอาดระหว่างซี่ฟันอีกครั้ง เพื่อกำจัดเศษอาหารครั้งสุดท้ายก่อนเข้านอน

คุณอย่าขี้เหนียวกับเรื่องแปรงฟัน คุณๆบางคนซื้อเครื่องสำอางแพงๆ ขนาดขวดละ 600-700 บาท ที่ละหลายๆชุด รวมเป็นเงินตั้งพันๆบาท แต่พอจะโยนแปรงสีหันอันเก่าของลูกทิ้งก็เสียดาย มันเก่าก็ต้องเปลี่ยน มิฉะนั้น ขนแปรงอาจจะเฉไฉออกมาทิ่มแทนเหงือกและกระพุ้งแก้ม ทำให้เกิดผลเสียทำความสะอาดไม่สะดวก 

แต่ก่อนนี้หมอเคยเป็นโรคประจำตัวอย่างหนึ่ง คือ เป็นแผลในปากเป็นประจำ ถ้าคนแก่เห็นเข้าเรียกว่า “แผลร้อนใน” แต่ก่อนเชื่อว่าเกิดจาก ตัวร้อน ก่อนจะเป็นตัวไม่ร้อน ครั้นเป็นแล้วอาจจับไข้ ตอนแรกก็หาเหตุไม่พบ จะว่าฟันคมก็ให้ทันตแพทย์ลบคมที่ฟันก็ยังเป็นอีก ต่อมาจับได้ว่าใช้แปรงขนแข็งไป ยาสีฟันก็ร้อนและแสบปาก อันเล็กขนน่า ยาสีฟันก็เปลี่ยนเป็นชนิดที่รสอ่อนลง ปรากฏว่า แผลนั้นหายไปนาน ทางแพทย์เราเรียกว่า Aphthous stomatitis ถ้าคุณมีปัญหาเหมือนหมอ เป็นแล้วเป็นอีกไม่รู้จักหาย ลองทำดู

กินผักผลไม้มากๆ

ไม่เพียงทำให้ย่อยง่าย เส้นใยและผักจะช่วยชำระคราบในฟันด้วย ดีกว่าลูกอมทอฟฟี่ หรือช็อกโกแลต หวานๆ ซึ่งจะติดฟันมาก 

หลังอาหารควรบ้วนปากทุกมื้อ

เพื่อชำระคราบอาหาร อย่ากินอาหารหลายมื้อนัก บางคนนอกจากอาหารหลัก 3 มื้อยังมีของว่างอีก  4-5 มื้อ ไม่ไหวค่ะ ฟันไม่ได้พักผ่อนเลย กินกันจนถึงเวลานอน ในเด็กเล็กควรให้ดูดน้ำตามหลังนมเพื่อชำระคราบนมด้วย 

ฟลูออไรด์กับฟันของเด็ก

เด็กๆควรได้ฟลูออไรด์เสริมเพื่อให้ฟันทน ฟันแข็งแรง พร้อมๆ กันไปก็ไม่ปล่อยปละละเลย การขยันแปรงฟัน บ้วนปากตามที่หมอแนะนำ 

ฟลูออไรด์ จัดเป็นธาตุที่ร่างกายต้องการปริมาณน้อย อยู่ในกลุ่ม Trace Element แต่ก็มีความสำคัญต่อฟันและกระดูก เด็กๆ อาจไดรับจากน้ำและอาหาร

มีการวิจัยทางทันตแพทย์ ที่ได้รับจาก ทันตแพทย์หญิง อพภิวันท์ ของโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า กรุณาส่งข้อมูลมาให้ทำให้หมอมีกำลังใจทำงานด้านสุขภาพเด็กขึ้นอักโข เพราะได้รับความสนใจจากนักวิชาการสาขาต่างๆ คุณหมอแจ้งมาว่า 

ในกทมหลักฐานของกองควบคุมคุณภาพน้ำ การประปานครหลวงแสดงว่า ฟลูออไรด์ ในน้ำประปา ของเรามีความเข้มข้น 01-02 ppm และจะไม่เกิน 03 ppm ดังนั้นการให้ฟลูออไรด์ในปริมาณที่แนะนำจะไม่มีอันตรายต่อเด็ก

ชนิดหยด มี 2 แบบ คือ 1 ซีซี (มล) มี 025 มก และ 1 ซีซี (มล) มี 05 มก 

ชนิดเม็ด เม็ดละ 1 มก 

แต่ตัวเลขดังกล่าวเป็นของประเทศสหรัฐอเมริกา เราคงจะต้องนำมาให้กับเด็กไทย โยมีข้อควรระวัง ดังต่อไปนี้ 

1ฟลูออไรด์ ยังมีอยู่ในสิ่งอื่นที่เด็กอาจได้รับ นั่นคือ ยาสีฟัน ซึ่งขณะนี้ได้เสริมฟลูออไรด์หมดแล้ว ของเด็กยังทำให้มีรสผลไม้แสนอร่อยหลายชนิด มีโอกาสที่เด็กเล็กๆ จะกลืนยาสีฟันได้มากๆ ซึ่งถ้าร่วมกับการกินยาทุกๆวัน อาจจะทำให้ปริมาณมากเกินไป และเกิดฟันตกกระ ที่เรียกว่า Fluorosis ได้

ทันตแพทย์จึงแนะนำว่า คุณพ่อคุณแม่ควร ใส่ยาสีฟันให้เด็กเท่าที่จำเป็นคือ คือขนากแค่เม็ดถั่วเขียวเพื่อให้การแปรงฟัน เพลิดเพลิน ไม่ใช่ใส่ยาสีฟันครั้งหนึ่ง ราวกับ ไอศกรีม สตรเบอรี่ ที่เด็กชอบกัน ทันตแพทย์ แนะนำไม่ให้ใช้ในเด็ก ต่ำกว่า 4 ปี ซึ่งหมดเองไม่แน่ใจว่าผู้ปกครองจะทำตามไหม เพราะส่วนมากชอบใส่ให้ลูกกันทั้งนั้น คุณพ่อคุณแม่ บางคน ไม่ใส่ใจคำแนะนำทางการแพทย์ แต่สนใจการโฆษณาทางทีวี และหนังสือพิมพ์มากกว่า 

2บางหมู่บ้าน บางแห่งที่มีฟลูออไรด์มากอยู่แล้ว ในน้ำบาดาล ก็งดการใช้ฟลูออไรด์ได้ ดังเช่น หมู่บ้านบางแห่งของภาคเหนือสุดที่มีคนฟันตกกร จากการดื่มน้ำบาดาลที่มีฟลูออไรด์ ซึ่งไม่ได้พบบ่อยนัก จึงอยากให้สมาคมทันตแพทย์ มี “คำแนะนำ เกี่ยวกับการใช้ฟลูออไรด์” ประกาศให้ทั่วกัน เพราะหมอเองเป็นเพียงหมอเด็กที่อยู่ไกลปืนเที่ยง ใจอยากจะให้ “เด็กไทยไร้ฟันผุ” แต่ก็ขาดข้อมูลทางด้านนี้ ถ้าทีแถลงการณ์ ให้ทราบสถานการณ์ทั่วประเทศว่า ภาคไหน ที่มีมากมีน้อยอย่างไร จะได้แนะนำการใช้ให้เหมาะสมกับปริมาณน้ำดื่มน้ำใช้ค่ะ

3ฟลูออไรด์ ยังมีอยู่ในมือทันตแพทย์ คือ การทาเคลือบผิวฟันกันมิให้ฟันผุ นี่ คือเหตุผลที่หมออยากให้คุณนำลูกไปพบทันตแพทย์ แต่เนิ่นๆ ไม่ใช่รอจน “ผุทั้งปาก” จึ่งค่อยจรลีไป คุณจะไดรับประโยชน์ คือ ให้ความรู้การดูแลฟันจากหมอฟัน และอาจรับการเคลือบฟลูออไรด์

การดูแลฟันของลูกให้มีสุขภาพดี

1) ตอนตั้งท้อง แม่ควรมีสุขภาพดี กินอาหารที่มีคุณค่า ฟันของลูกจะเริ่มเติบโตแล้วตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ 

2) เด็กเล็กๆ ต้องพึ่งพาพ่อแม่ คุณให้ลูกนอนหงาย บนตักขอบคุณแล้วใช้ผ้าสะอาดหรือผ้ากอซชุบน้ำต้มสุขเช็ดในปากเด็กและในเหงือก กันคราบนำ คราบเชื้อโรคเกาะฟันลูก 

3) หลังดูดนมแม่ นมขวด ควรดูดน้ำล้างปาก ล้างฟัน 

4) ไม่ให้ลูกกินน้ำกลูโคส 

5) ไม่ให้ลูกหลับคาขวดนม ตอนดึกเมื่อลูกมีฟันแล้ว 

6) เลิกดูดขวดนมเมื่อ อายุ 12-18 เดือน ดื่มจากถ้วยนม 

7) ไปพบแพทย์เร็วที่สุดเท่าที่เด็กเริ่มมีฟัน 

8) เด็กวันต่ำกว่า 4 ปี ยังดูแลฟันตนเองไม่ได้ดี แม้ว่าจะแปรงฟันได้ คุณควรตรวจดูแลความสะอาดและการแปรงฟันที่ถูกต้องตามเทคนิค 

9) หัดใส่เส้นด้ายขัดฟัน มีในท้องตลาดเรียกว่า Dental folss ควรใช้ชนิดเคลือบด้วย Wax เพราะไม่คมและบาดเหงือกลูก

10) พบทันตแพทย์ เป็นระยะๆ เพื่อแนะนำสุขภาพฟัน และผนึกหลุมกับร่องฟันที่มีท่าทีจะเกิดและเคลือบฟันให้เด็กทุก 6 เดือน หรือตามความเหมาะสม 

11) เด็กเล็กกว่า 3 ปี ให้กินฟลูออไรด์ชนิดหยดเกิน 3 ปี กินชนิดเม็ด เคี้ยวละเอียดอมไว้สักครู่ เพื่อเคลือบฟัน มี Local effect แล้วจึงกลืน โดยพ่อแม่ ต้องคอยดูแลการให้ยาเอง ไม่ปล่อยเด็กกินตามใจชอบ เพราะโอกาสเกินและมีอันตรายเกิดได้ค่ะ

12) ฟันทุกซี่มีความสำคัญตลอดชีวิต จนแก่เฒ่าเลย นับเป็นสมบัติล้ำค่าน่าทะนุถนอมยิ่งนักแล

โดย ??? : 2014-03-18 05:39:16 IP : 110.171.183.127

ข้อความ *
รูปภาพ (รูปต้องมีขนาดไม่เกิน 50 k)
ผู้แสดงความคิดเห็น *
Email
 
New Code
Verify Code *

Your Data :
IP : 3.144.233.150
Internet form : ec2-3-144-233-150.us-east-2.compute.amazonaws.com
Date : 2024-04-24 0:12:14